Facebook โดนแอบส่อง! วิธีปิดฟีเจอร์ลับที่ทำให้ข้อมูลคุณหลุดโดยไม่รู้ตัว หลบภัยจากแฮกเกอร์แบบไม่ต้องรอให้โดนก่อน
- HKT
- 21 เม.ย.
- ยาว 2 นาที
คุณอาจคิดว่าตัวเองตั้งค่าความเป็นส่วนตัวใน Facebook ดีแล้ว ไม่เปิดโพสต์เป็นสาธารณะ ไม่กดลิงก์มั่ว เปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำ เปิด 2FA ไว้แน่นหนา
แต่รู้ไหมว่า...ยังมี “ฟีเจอร์ลับ” อีกหลายอย่างใน Facebook ที่ เปิดเป็นค่าเริ่มต้น (default) ซึ่งเงียบ ๆ ส่งข้อมูลของคุณออกไปโดยที่คุณไม่รู้ตัว
และข้อมูลเหล่านี้เองที่อาจกลายเป็น จิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญให้แฮกเกอร์ใช้ต่อยอดล่อลวงคุณ หรือเจาะบัญชีคุณได้ในอนาคต
บทความนี้จะพาคุณ “ล้วงลึก” ฟีเจอร์ลับพวกนั้น และที่สำคัญ สอนวิธีปิดทีละขั้น ไม่ต้องเก่งเทคโนโลยี แค่รู้ทันและลงมือป้องกัน หากคุณได้อ่านและลองทำตามแล้วยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ สามารถติดต่อทางเรา รับแฮกเฟซบุ๊ก ที่มีผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพในการช่วยแก้ปัญหาของท่าน
1. “กิจกรรมนอก Facebook” (Off-Facebook Activity)
คืออะไร: ฟีเจอร์นี้ทำให้ Facebook รู้ว่า คุณไปทำอะไรนอกแพลตฟอร์ม เช่น เข้าเว็บไซต์ช็อปปิ้ง ซื้อของ ดูข่าว กดสินค้าในแอปอื่น ๆ แล้วเอาข้อมูลเหล่านั้นมาเชื่อมกับบัญชี Facebook เพื่อ “ปรับประสบการณ์โฆษณา”
ฟังดูเหมือนเพื่อความสะดวก แต่รู้ไหมว่าข้อมูลที่แชร์ออกไปนั้นละเอียดมาก และถ้าเกิดข้อมูลหลุด → ก็อาจกลายเป็นบ่อข้อมูลให้แฮกเกอร์วิเคราะห์พฤติกรรมของคุณได้
ตัวอย่าง:
เว็บไซต์ที่คุณเข้า
เวลาใช้งาน
อุปกรณ์ที่ใช้
หมวดหมู่สินค้าที่สนใจ
พฤติกรรมการกดไลก์หรือคอมเมนต์
วิธีปิด: ไปที่ https://www.facebook.com/off_facebook_activity/
คลิก “จัดการกิจกรรมนอก Facebook” กด “ล้างประวัติกิจกรรม”
จากนั้นคลิก “จัดการกิจกรรมในอนาคต” → ปิดการเชื่อมต่อ แนะนำให้กลับมาล้างข้อมูลเป็นระยะ โดยเฉพาะถ้าคุณใช้งานหลายเว็บที่เชื่อมกับ Facebook
2. การดูโปรไฟล์แบบ “คนอื่นมองเห็นคุณยังไง?”
หลายคนไม่รู้ว่า เฟซบุ๊กเปิดข้อมูลบางอย่างให้ “คนแปลกหน้า” ดูได้ โดยไม่ได้ตั้งใจ เช่น:
รายชื่อเพื่อน รูปภาพโปรไฟล์เก่า กิจกรรมที่คุณกดเข้าร่วม หน้าเพจที่คุณกดไลก์ คอมเมนต์ที่คุณเขียนในโพสต์สาธารณะ
ข้อมูลเหล่านี้แม้ดูเป็น “เรื่องเล็ก” แต่สำหรับแฮกเกอร์ — มันคือเครื่องมือที่ใช้สร้างโปรไฟล์ปลอม หรือหลอกลวงเพื่อนของคุณ
วิธีเช็ก: เข้าโปรไฟล์ของตัวเอง
คลิกเมนูจุดสามจุด ... → เลือก “ดูในมุมมองของบุคคลอื่น” คุณจะเห็นเลยว่า “คนแปลกหน้า” เห็นข้อมูลอะไรจากคุณบ้าง
วิธีปรับ:ไปที่ การตั้งค่า > ความเป็นส่วนตัว ปรับให้โพสต์, รายชื่อเพื่อน, รูปภาพ ฯลฯ เป็น “เฉพาะเพื่อน” เท่านั้น ทำให้แฮกเกอร์หรือคนไม่รู้จัก สแกนข้อมูลเพื่อใช้ในมุกหลอกได้ยากขึ้น
3. การแท็กอัตโนมัติในรูปหรือโพสต์
Facebook เปิดให้ “ใครก็ได้” แท็กชื่อคุณลงในโพสต์หรือรูปของเขา และบางครั้งระบบก็แท็กให้โดยอัตโนมัติ โดยใช้ AI จดจำใบหน้าจากรูปเก่า ๆ
ลองจินตนาการว่า คุณโดนแท็กรูปแปลก ๆ ที่มีลิงก์ปลอม หรือมีใครสร้างภาพตัดต่อ แล้วแท็กชื่อคุณลงไปหรือระบบจับใบหน้าคุณผิดพลาด แล้วไปแท็กในภาพที่ไม่เหมาะสม ทั้งหมดนี้คือช่องโหว่ที่ “แฮกเกอร์หรือมิจฉาชีพ” อาจใช้เพื่อทำให้คุณเสียชื่อเสียง หรือขยายเครือข่ายการหลอกลวง
วิธีปิด: ไปที่ การตั้งค่า > โปรไฟล์และการแท็ก ปิดฟีเจอร์ “ใครสามารถแท็กคุณ” “อนุมัติก่อนแสดงแท็ก”
“อนุญาตให้ Facebook จดจำใบหน้าคุณหรือไม่” → ปิด!
เคล็ดลับ: การอนุมัติแท็กก่อนแสดงคือด่านกรองชั้นเยี่ยมที่หลายคนมองข้าม
4. “ตำแหน่งที่ตั้ง” (Location History) ที่คุณอาจไม่รู้ว่าเปิดอยู่
รู้ไหมว่า Facebook อาจ “ตามติด” ว่าคุณอยู่ที่ไหน ไปที่ไหนมาเมื่อวาน ใช้อินเทอร์เน็ตที่ไหน ทั้งหมดนี้ถูกเก็บไว้ในระบบ
ถ้าคุณเคยเปิด “ตำแหน่งที่ตั้ง” ไว้สำหรับใช้ Check-in หรือดูร้านอาหารใกล้ตัว → ระบบจะเริ่มเก็บข้อมูลทันทีแม้คุณไม่ใช้ฟีเจอร์นั้นอีกแล้ว
ข้อมูลพิกัดเหล่านี้ หากรั่วไหล หรือถูกเข้าถึงโดยผู้ไม่หวังดี — อาจนำไปสู่ความเสี่ยงในโลกจริง เช่น การสะกดรอย หรือปลอมตัวว่า “อยู่ใกล้คุณ” เพื่อหลอก
วิธีปิด:เข้าแอป Facebook → ไปที่ การตั้งค่า > ตำแหน่งที่ตั้ง
ปิดการแชร์ตำแหน่งแบบ “ขณะใช้งาน” และ “ในพื้นหลัง” ล้างประวัติตำแหน่งที่เก็บไว้ในระบบ
สำหรับผู้ใช้ Android และ iOS: อย่าลืมเช็กสิทธิ์การเข้าถึงในระบบด้วย ว่า Facebook ยังเข้าถึง GPS อยู่หรือไม่
5. การเข้าถึงกล้อง / ไมโครโฟน / ไฟล์ จากแอป Facebook
บางครั้งแฮกเกอร์ไม่ได้พุ่งเป้ามาที่บัญชีคุณโดยตรง แต่ “แทรกตัว” ผ่านแอปที่คุณใช้เป็นประจำ
และ Facebook ก็เป็นหนึ่งในแอปที่มี “สิทธิ์เข้าถึง” อุปกรณ์หลายอย่าง เช่น:กล้อง ไมโครโฟน ที่จัดเก็บไฟล์
รายชื่อผู้ติดต่อ สิ่งนี้ช่วยให้คุณใช้งานได้สะดวกขึ้น เช่น ถ่ายรูปโพสต์ หรือโทรผ่าน Messenger แต่หากอุปกรณ์ของคุณไม่ปลอดภัย หรือมีมัลแวร์แอบแฝง — สิทธิ์เหล่านี้อาจถูกแฮกเกอร์ใช้เป็นช่องทางขโมยข้อมูล
วิธีจัดการ: ไปที่ การตั้งค่า > ความเป็นส่วนตัว > การอนุญาตของแอป (App Permissions) ปิดการเข้าถึงที่ไม่จำเป็น เช่น กล้อง → เปิดเฉพาะตอนจะถ่ายรูป ไมโครโฟน → ปิดไว้เมื่อไม่ได้โทร ที่จัดเก็บไฟล์ → ไม่ให้เข้าถึงทั้งอัลบั้ม
ทั้ง Android และ iOS เวอร์ชันใหม่จะมีระบบอนุญาต “แค่ครั้งเดียว” หรือ “เฉพาะตอนใช้” — ควรเลือกใช้เสมอ
สรุป
ความปลอดภัยไม่ได้อยู่ที่ Facebook… แต่อยู่ที่เรา”
Facebook อาจไม่ใช่แพลตฟอร์มอันตราย แต่การที่เราไม่รู้ว่า “มันเก็บข้อมูลอะไรจากเรา” และ “ตั้งค่าอะไรเป็นค่าเริ่มต้นไว้บ้าง” นั่นแหละที่เป็นอันตราย
การปิดฟีเจอร์ที่ไม่จำเป็นเหล่านี้จะช่วย
ป้องกันข้อมูลส่วนตัวรั่วไหล
ลดความเสี่ยงจาก Social Engineering
ทำให้แฮกเกอร์ไม่สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของคุณได้ง่าย
และสุดท้าย ช่วยให้คุณเป็นเจ้าของตัวตนออนไลน์ของตัวเองอย่างแท้จริง
หากบทความนี้มีประโยชน์ อย่ารอช้า แชร์ต่อให้คนที่คุณห่วงใย โดยเฉพาะพ่อแม่ ญาติ หรือเพื่อนที่ไม่ค่อยได้ตั้งค่าอะไรเลย…
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณกู้คืนบัญชีและป้องกันการถูกแฮกได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากพบปัญหาหรือมีคำถามเพิ่มเติม อย่าลังเลที่จะค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ โดยทางเรามีบริการ รับแฮกเฟซบุ๊ก หรือกู้คืนบัญชีโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ สามารถติดต่อเราได้เลย !

Comments