top of page
ค้นหา

5 วิธีป้องกันไม่ให้เฟซบุ๊กโดนแฮก

  • รูปภาพนักเขียน: HKT
    HKT
  • 7 วันที่ผ่านมา
  • ยาว 2 นาที

ในโลกยุคดิจิทัลที่การใช้เฟซบุ๊กกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของหลาย ๆ คน การถูกแฮกบัญชีไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวอีกต่อไป จากเคยเป็นแค่ข่าวที่เห็นผ่าน ๆ กลายเป็นเรื่องที่เกิดกับเพื่อน พี่น้อง หรือแม้แต่ตัวเราเองได้อย่างไม่รู้ตัว

เฟซบุ๊กไม่ได้เป็นเพียงแพลตฟอร์มสำหรับอัปเดตชีวิตหรือพูดคุยกับเพื่อนอีกต่อไป แต่มันกลายเป็น “ศูนย์กลางตัวตนออนไลน์” ของเราเชื่อมต่อกับแอปอื่น ๆ ใช้ล็อกอินเข้าเว็บไซต์ต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งใช้ขายของ รับโอนเงิน และติดต่อธุรกิจ

เพราะฉะนั้น ถ้าเฟซบุ๊กของคุณโดนแฮก นั่นไม่ใช่แค่เสียบัญชี...แต่มันอาจแปลว่า คุณเสียความเป็นตัวตนในโลกดิจิทัลไปทั้งชุด

แต่ไม่ต้องตกใจ วันนี้เราจะมาแนะนำ 5 วิธีป้องกันเฟซบุ๊กไม่ให้โดนแฮก ที่ง่ายมาก ใครก็ทำได้ ไม่ต้องเก่งคอมพิวเตอร์ แต่ได้ผลโคตรเวิร์ก หากท่านได้อ่านและลองทำตามแล้วยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ สามารถติดต่อทางเรา รับแฮกเฟซบุ๊ก ที่มีผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพในการช่วยแก้ปัญหาของท่าน

1. ใช้รหัสผ่านที่เดายาก และไม่ใช้ซ้ำกับที่อื่น

อย่าใช้รหัสผ่านว่า 123456, password, หรือ abcdefg เพราะพวกนี้เป็นรหัสผ่านยอดนิยมของคนทั่วโลก และแฮกเกอร์ก็รู้

ทำไมต้องไม่ใช้รหัสผ่านซ้ำกัน

สมมติว่าคุณใช้รหัสผ่านเดียวกันกับอีเมล เว็บไซต์ช็อปปิ้ง และเฟซบุ๊ก ถ้าเว็บไซต์ใดเว็บไซต์หนึ่งถูกเจาะข้อมูล แฮกเกอร์สามารถเอารหัสนั้นมาลองเข้าเฟซบุ๊กของคุณได้เลย

สิ่งที่ควรทำคือ:

ใช้รหัสผ่านที่ ยาว (อย่างน้อย 12 ตัวอักษร) ผสมตัวอักษร พิมพ์เล็ก + พิมพ์ใหญ่ + ตัวเลข + สัญลักษณ์พิเศษ

อย่าใช้ข้อมูลส่วนตัวในรหัส เช่น ชื่อ, วันเกิด, เบอร์โทร

ใช้ Password Manager ช่วยสร้างและจำรหัสให้ เช่น Bitwarden, 1Password, หรือ Keepass

ตัวอย่างรหัสที่ดี:

R0ckM3^Blue_Sea2025!

(เข้าใจง่ายสำหรับเรา แต่เดายากมากสำหรับคนอื่น)

 แนะนำ: ตั้งเตือนให้เปลี่ยนรหัสผ่านทุก 6 เดือนด้วยนะคะ

2. เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนสองชั้น (2FA)

การยืนยันตัวตนสองชั้น หรือ Two-Factor Authentication (2FA) คือเกราะป้องกันด่านสุดท้าย

แม้ว่าแฮกเกอร์จะได้รหัสผ่านของคุณไปแล้ว เขาก็จะไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้ ถ้าคุณเปิด 2FA ไว้ เฟซบุ๊กจะส่งรหัส OTP ไปยังโทรศัพท์ของคุณ หรือให้คุณใช้แอปยืนยันตัวตนเพื่ออนุมัติการเข้าสู่ระบบใหม่

วิธีเปิด 2FA บนเฟซบุ๊ก:

ไปที่ การตั้งค่า > ความปลอดภัยและการเข้าสู่ระบบ

เลือก “การใช้การยืนยันตัวตนแบบสองชั้น”

เลือกวิธีรับรหัส: SMS, แอปยืนยันตัวตน (เช่น Google Authenticator), หรือคีย์ความปลอดภัย

คำแนะนำ: อย่าใช้ SMS เป็นตัวเลือกหลักเสมอไป เพราะเบอร์โทรอาจถูกขโมยได้ แอปยืนยันตัวตนเช่น Google Authenticator หรือ Authy มีความปลอดภัยสูงกว่า

3. อย่ากดลิงก์แปลก ๆ แม้จะมาจากเพื่อน

หนึ่งในวิธีที่แฮกเกอร์ใช้กันมากที่สุดคือ Phishing หรือ “การหลอกล่อให้คุณเปิดเผยข้อมูลเอง”

บางครั้งคุณอาจได้รับข้อความจากเพื่อนว่า:

“เธอใช่ในคลิปนี้หรือเปล่า?”

“รับเงินฟรี 50,000 บาท คลิกเลย!”

“มีคนส่องโปรไฟล์คุณเยอะมาก ดูได้ที่นี่”

ข้อความเหล่านี้มาพร้อมลิงก์ที่ หน้าตาเหมือน Facebook มาก ๆ แต่จริง ๆ แล้วเป็นหน้าเว็บปลอมที่เอาไว้เก็บอีเมลและรหัสผ่านของคุณ

วิธีสังเกตลิงก์ปลอม:

URL แปลก เช่น faceboook-login.com หรือ fb-checker.xyz

หน้าเว็บดูคล้าย Facebook แต่ไม่มี “https://facebook.com” อย่างแท้จริง

พอกรอกข้อมูลแล้ว ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือระบบเด้งออกเฉย ๆ

ถ้าเผลอกรอกไปแล้วต้องทำไง? รีบเปลี่ยนรหัสผ่านทันที

เข้าไปที่ https://www.facebook.com/hacked ล้างเบราว์เซอร์ / รีเซ็ตแอคเคานต์แอปที่ผูกไว้

เปิด 2FA ถ้ายังไม่ได้เปิด

4. ตรวจสอบแอปและเว็บไซต์ที่เชื่อมกับบัญชี Facebook

เฟซบุ๊กอนุญาตให้คุณใช้บัญชีเดียวล็อกอินกับแอปและเว็บอื่น ๆ ได้ แต่บางครั้ง... เราอาจเผลอกดยอมให้สิทธิ์กับแอปที่ไม่น่าไว้ใจไปโดยไม่รู้ตัว ยิ่งนานวัน รายการแอปที่เชื่อมอยู่ก็จะยิ่งเยอะขึ้น และอาจมีบางตัวที่:

ขอสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลส่วนตัว

โพสต์บนหน้าวอลล์โดยอัตโนมัติ

ส่งข้อความไปหาเพื่อนแทนคุณ

วิธีลบแอปที่เชื่อมกับเฟซบุ๊ก:

ไปที่ การตั้งค่า > แอปและเว็บไซต์

ดู “แอปที่เข้าสู่ระบบด้วย Facebook”

ลบทุกแอปที่ไม่รู้จัก ไม่ได้ใช้งาน หรือดูไม่น่าเชื่อถือ

เคล็ดลับ: อย่าเชื่อเกมหรือแบบทดสอบแนว “คุณจะรวยไหมในอนาคต?” หรือ “หน้าแฟนคุณจะหน้าตาเป็นยังไง?”

พวกนี้มักใช้ดึงข้อมูลมากกว่าสร้างความสนุก

5. ตั้งค่าความเป็นส่วนตัวให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น

ข้อมูลส่วนตัวที่คุณเปิดเผยในโปรไฟล์ เช่น วันเกิด, เบอร์โทร, ที่อยู่, หรืออีเมล คือสิ่งที่แฮกเกอร์ใช้เพื่อเดารหัสผ่าน หรือสร้างการโจมตีแบบ Social Engineering

บางคนยังเปิดโปรไฟล์ให้ “ใครก็ได้” เข้าชมได้หมด ซึ่งนั่นคือประตูหลังที่ให้คนแปลกหน้ารู้เรื่องของคุณมากเกินไป

สิ่งที่ควรตั้งค่าความเป็นส่วนตัว:

ตั้งโพสต์ให้ “เพื่อนเท่านั้น” เห็นได้

ซ่อนวันเกิด, อีเมล, เบอร์โทร

ปิดไม่ให้คนค้นหาคุณจากเบอร์โทรหรืออีเมล

ปิดการแท็กอัตโนมัติจากคนอื่น

ตรวจสอบทุกโพสต์ก่อนให้ขึ้นวอลล์

วิธีตั้งค่า: ไปที่ การตั้งค่า > ความเป็นส่วนตัว

ตรวจสอบแต่ละหัวข้อ โดยเน้นให้เฉพาะ “เพื่อน” เท่านั้นที่เข้าถึงได้ ใช้ “การตรวจสอบความเป็นส่วนตัว” (Privacy Checkup) ที่ Facebook มีให้

สรุป

ยิ่งป้องกันตั้งแต่เนิ่น ๆ ยิ่งไม่ต้องเสียใจภายหลัง การป้องกันเฟซบุ๊กจากการโดนแฮก ไม่ใช่เรื่องไกลตัว และไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเรียน แม่ค้าออนไลน์ ฟรีแลนซ์ หรือผู้สูงวัย หากคุณอ่านบทความนี้แล้ว อย่ารอช้า! ลองทำตามแต่ละขั้นตอนดูทีละข้อ บางอย่างใช้เวลาแค่ไม่ถึง 5 นาที แต่ช่วยปกป้องบัญชีของคุณไปได้อีกยาวนาน และถ้าคุณคิดว่าเนื้อหานี้มีประโยชน์ แชร์ต่อให้เพื่อน พ่อแม่ หรือคนใกล้ตัว เพราะบางที...คนที่ไม่คุ้นกับเทคโนโลยีคือกลุ่มเป้าหมายของแฮกเกอร์โดยตรง โลกออนไลน์จะดีขึ้น เมื่อเรารู้เท่าทันภัยใกล้ตัว

     หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณกู้คืนบัญชีและป้องกันการถูกแฮกได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากพบปัญหาหรือมีคำถามเพิ่มเติม อย่าลังเลที่จะค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ โดยทางเรามีบริการ รับแฮกเฟซบุ๊ก หรือกู้คืนบัญชีโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ สามารถติดต่อเราได้เลย !



 
 
 

Comentarios


รับประการทำงานว่าสำเร็จตามเป้าหมาย 100% และมีการคืนเงินตามเงื่อนไขทุกประการ รับประกันโดยทีมงานของทางเรา ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ทางเว็ปไซต์

bottom of page